แอดเวนเจอร์กับการล่องแก่งนครนายก

เพราะอากาศบ้านเราร้อนขึ้นทุกวัน ทำให้หลายคนนึกถึงที่เที่ยวที่เกี่ยวกับทะเล นอกจากนี้ยังหลบหนีความวุ่นวายของเมืองกรุง ไปท่องเที่ยวตามภูเขาและน้ำตกสวย ๆ ซึ่งในปัจจุบัน มีสถานที่เที่ยวทางน้ำที่มีความสนุกตื่นเต้นซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้ธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ล่องแก่งนครนายก ซึ่งแม้นครนายกจะเป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่ แต่ก็เหมาะสำหรับ การท่องเที่ยวตามแหล่งทางธรรมชาติ  โดยเฉพาะการไป ล่องแก่งนครนายก สไตล์แอดเวนเจอร์ ที่สร้างความท้าทายให้กับตัวเอง

ที่มาของ ล่องแก่งนครนายก

จุดเริ่มต้นของการ ล่องแก่งนครนายก อยู่ที่บริเวณเชิงสะพานท่าด่าน ซึ่งแม่น้ำนครนายกนั้น มีต้นกำเนิดมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเกิดจากลำธารหลายสายมารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นคลองตะไคร้ หรือคลองนางรองที่มารวมตัวกันเป็นแม่น้ำไหลผ่านจังหวัดนครนายก   และไปสิ้นสุดการล่องที่บริเวณบ้านวังยาว ซึ่งการล่องแก่งนครนายก มีระดับความยากและง่ายที่สามารถสร้างความสนุกได้ทุกเพศทุกวัยและสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ผจญภัยไปกับล่องแก่งนครนายก

จุดเริ่มต้นของการผจญภัยการ ล่องแก่งนครนายก ของแม่น้ำนครนายกเริ่มจากบริเวณเชิงสะพานท่าด่าน และเลาะเลี้ยวไปตามลำน้ำนครนายก ด้วยความแรงของระดับสายน้ำที่ 1-3 ผ่านแก่งต่าง ๆ ประมาณ 2 ชั่วโมงของตลอดระยะทางในการล่องแก่ง ที่สามารถสร้างความสนุกตื่นเต้นให้กับทุกคน โดยจะล่องผ่านแก่งโขดคุ้ง ซึ่งเป็นโขดหินที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำฤดูร้อน แต่จะจมลง ในน้ำ ฤดูฝน และผ่านเกาะแก่ง มีลักษณะคล้ายๆกับแก่งโขดคุ้ง

ไฮไลท์ของการล่องแก่งนครนายก

ส่วนแก่งสุดท้ายที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของการล่องแก่งแห่งนี้ คือ แก่งหินสามชั้นซึ่งจะมีลักษณะเทลาดเอียงลงมาเหมือนเป็นขั้นบันไดและมีระยะทางยาวประมาณห้าสิบเมตร ซึ่งกระแสน้ำจะไหลวนลงมาแล้วกระทบกับโขดหินน้อยหินใหญ่ที่จมอยู่ใต้น้ำ จนทำให้เกิดเป็นลูกคลื่นม้วนตัวเข้าหาหินที่สูงประมาณหนึ่งเมตร ถือเป็นจุดท้าทายของ การล่องแก่งนครนายก หรือนักพายเรือคายัคและแคนู  ซึ่งก่อนจะถึงตัวแก่งสามชั้นใช้ระยะทางเพียงไม่กี่เมตร ก็จะถึงโค้งหักศอก โดยนักล่องแก่งจะต้องระมัดระวังตัวและพยายามบังคับฝีพายให้ดีๆ  ล่องแก่งนครนายก เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบมาประลองกำลังความสามารถ ที่บริเวณแก่งสามชั้นแห่งนี้

ล่องแก่งนครนายก ถือได้ว่าเป็นสถานที่เที่ยวทางน้ำและเป็นกิจกรรมที่ทำให้หัวใจของคุณสูบฉีดอย่างพองโต นอกจากการล่องแก่งนครนายกแล้วยังสนุกไปกับการขับรถ ATV ตามเส้นทางธรรมชาติแบบลุย ๆ ได้อีกด้วย นับเป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]