ในช่วงใกล้สิ้นปีหลายคนคงมีแพลนที่จะออกไปท่องเที่ยวในวันหยุดแสนสบายของคุณและครอบครัว ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยก็มีให้เลือกเยอะแยะทั้งภาคใต้ภาคกลางภาคเหนือและภาคอีสาน สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในปัจจุบันนี้ต้องยกให้ที่นี่เลย สวนนงนุช พัทยา ซึ่ง ประวัติสวนนงนุช ยาวนานกว่า 30 ปีเป็นสวนจัดตกแต่งพันธุ์ไม้ให้มีความงดงามเป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวไทยลาวต่างประเทศ คุณทราบไหมว่าที่สวนนงนุช พัทยามีการจัดรูปแบบต้นไม้ต่าง ๆ อย่างไรให้สวนนงนุชเป็นที่ประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้ายังไม่ทราบวันนี้เราจะมาบอกให้คุณได้ทราบกัน ทำไมถึงสวนนงนุช ใหญ่และดีนักท่องเทียวถึงชอบไปกัน มีการจัดรูปแบบสวนด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันเพื่อดึงดูดความสนใจและไม่ซ้ำซากแบบการจัดสวนเก่าๆ มีการประยุกต์การจัดสวนให้เกิดความทันสมัยและเข้ากับความนิยมของนักท่องเที่ยว สวนนงนุชมีสวนมากมายไม่ว่าจะเป็น สวนน้ำพุ ซึ่งสวนน้ำพุนั้นมีการจัดสร้างขึ้นตั้งแต่แรกเริ่มที่ก่อตั้งสวนนงนุช จึงเปรียบสวนน้ำพุบริเวณนั้นได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของสวนนงนุชก็ว่าได้ สวนตุ๊กตากระถาง ในสวนนี้กระถางทั้งหลายที่เห็นมีจำนวนกว่า 50,000 ใบ ประวัติ สวนนงนุช ที่กล่าวถึงว่าทำไมผู้จัดทำสวนถึงได้รางวัลในการประกวด ก็คือผู้จัดทำสวนของสวนนงนุชนั่นเองเรียกได้ว่าออกแบบกันตามจินตนาการของแต่ละคน สวนหินเป็นสวนที่จัดตกแต่งด้วยก้อนกินน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีการนำพืชพรรณต่างๆจาก รัฐฟลอลิด้า ประเทศสหรัฐอเมริกามาตกแต่งซึ่งเรียกได้ว่าหาชมยากเช่นกัน สวนตะบองเพชร หากชื่นชอบพืชในเขตทะเลทรายคุณต้องตกหลุมรักเหล่าพืชตะบองเพชรที่มีมากกว่า 300 ชนิดทั่วโลกซึ่งนำมาจัดให้คุณภายในสวนนงนุชและภายในสวนนงนุชก็ยังมีสวนอีกมากมายให้คุณได้ลองไปชมทั้งสวนฝรั่งเศส สวนปาล์มโลก เป็นต้น ทำไม สวนนงนุช ถึงเป็นที่นิยม ที่สวยและออกมาดูดีเช่นนี้บุคลากรของสวนนงนุชต่างก็เคยผ่านการประกวดมานับไม่ถ้วน เช่น การเข้าร่วมประกวดจัดสวนดอกไม้ประดับในปี 2553 ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทองการประกวดในทุกๆครั้งที่นี่จัดสวนได้อย่างลงตัว มีการตกแต่งในแต่ละจุดได้อย่างสวยงาม และหลากหลาย การันตีด้วยรางวัลระดับโลก สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี ก็ได้เข้าร่วมประกวดใน […]
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมที่สะท้อนความเป็นไปของชาติไทย และการเจริญเติบโตของคนในชาติ ดังนั้นหากใครได้มีโอกาสแวะมาเยี่ยมเยียนที่นี่สักครั้ง รับรองว่าจะได้ทั้งประสบการณ์ที่ดีและความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยเลยทีเดียว ดังนั้นบทความนี้ขอแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางมา ทัวร์อยุุธยา ที่คุณต้องไม่พลาดในลองประสบการณ์มาเที่ยวค่ะ 1. เดินทางโดยรถไฟ หากคุณชอบประสบการณ์การท่องเที่ยวแนวแบกเป้ และชมธรรมชาติตลอดสองข้างทางของการเดินทางแบบชิลล์แล้ว ผมแนะนำให้คุณลองใช้บริการเดินทางโดยรถไฟ ซึ่งจะให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นกับคุณมากๆเลยทีเดียว สำหรับคำแนะนำคือให้ขึ้นรถไฟที่สถานีบางซื่อ และไปลงที่สถานีบางปะอิน จากนั้นก็สามารถต่อรถมอเตอร์ไซด์ ไป ทัวร์อยุธยา ตามจุดต่างๆได้แล้ว แต่การเดินทางแบบนี้อาจช้าสักหน่อยจึงเหมาะกับคนที่ไม่รีบเร่งในการเดินทาง 2. เดินทางโดยการปั่นจักรยาน สำหรับผู้ที่เดินทางโดยการปั่นจักรยาน แนะนำว่าควรเป็นการเดินทางในรูปแบบหมู่คณะ คือมากันหลายๆคน เพื่อเพิ่มปลอดภัยสำหรับการเดินทาง และคุณสามารถขี่รถจักรยานไปตามเส้นทางที่มีการวางแผนไว้และเข้าสู่จังหวัดอยุธยา โดยจุดที่แนะนำมากๆคือ การปั่นจักรยาน ทัวร์อยุธยา ในตัวเมืองค่ะ ได้บรรยากาศการท่องเที่ยวที่สุดคูลล์จริงๆ 3. เดินทางไปกับคณะทัวร์ทางรถและกลับทางเรือ การเดินทางไป ทัวร์อยุธยา แบบนี้ช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ในการท่องเที่ยวเมืองเก่าอย่างเต็มที่ โดยมีผู้ให้บริการในการพาคุณนำเที่ยวอยุธยาโดยไกด์ผู้ชำนาญการ และมีอาหารให้คุณรับประทานตลอดการเดินทาง และในส่วนของขากลับ คุณสามารถเดินทางไปโดยทางเรือเพื่อกลับสู่จุดขึ้นรถ จะทำให้คุณได้รับชมทัศนียภาพตลอดสองฝั่งข้างทางที่สวยงามของแม่น้ำพระยา 4. เดินทางไปโดยรถยนต์ และการเดินทางไป ทัวร์อยุธยา แบบสุดท้ายนั่นคือ การเดินทางโดยรถยนต์ โดยถือเป็นการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดสำหรับวิธีการเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดอยุธยา แต่มีข้อจำกัดคือ การเดินทางอาจมีค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นถ้ารถคุณเป็นรถแบบติดแก๊ส หรือคุณไม่มีภาระด้านค่าใช้จ่าย สามารถเลือกใช้วิธีการขับรถไปแทนได้ค่ะ สรุปแล้วการเดินทางไป ทัวร์อยุธยา ในแต่ละวิธีนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เดินทางค่ะ ซึ่งการขับรถไป หรือการใช้บริการทัวร์ทางรถกลับทางเรือต่างก็ให้อารมณ์ในการเดินทางไปอยุธยาที่แตกต่างกัน […]
หลายคนที่ชอบท่องเที่ยวทางน้ำแต่ว่าไปทะเลมาบ่อยแล้ว อยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างแนะนำว่าลองไปเที่ยวแพดูไหม โดยเฉพาะแพไทรโยคต้องบอกเลยว่าเป็นที่ท่องเที่ยวทางน้ำเหมือนกัน สนุกเหมือนกันแต่ว่าอาจจะได้รสชาติความสนุกไปอีกแบบหนึ่ง แพไทรโยคจะเป็นแบบไหนตามมาทางนี้เลย รูปแบบการเที่ยวแพไทรโยค แพไทรโยค เป็นการท่องเที่ยวโดยพักอยู่บนที่พักกลางน้ำที่เรียกว่า แพ จากนั้นทางแพก็อาจจะมีกิจกรรมให้ผู้เข้าพักได้ร่วมสนุกกันเพื่อผ่อนคลายความเครียด แล้วก็รับประทานอาหารร่วมกันโดยทั่วไปแล้วรูปแบบการเที่ยวแพไทรโยคก็จะอยู่ที่สองวันหนึ่งคืนซะเป็นส่วนใหญ่ถ้านานกว่านี้อาจทำให้เบื่อไปเสียก่อน แพไทรโยคชิวๆกันเป็นกลุ่ม แพรไทรโยค นี้เหมาะมากสำหรับการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเล็กตั้งแต่ 3-5 คน ไปจนถึงกลุ่มใหญ่ตั้งแต่สิบคนขึ้นไป เพราะการเที่ยวแพมีเสน่ห์อยู่อย่างหนึ่งคือมันอยู่กลางน้ำทำให้ผู้เข้าพักต้องอยู่รวมกันตลอดทริปการเดินทางถ้าไปกับเพื่อนรับรองเลยว่าเห็นหน้ากันตลอดทริปจนหายคิดถึงกันไปข้าง แพไทรโยคมีกิจกรรมอะไรบ้าง การเที่ยว แพไทรโยค นี้กิจกรรมส่วนใหญ่ก็จะเป็นกิจกรรมทางน้ำ หรือเล่นน้ำนั่นแหละ ส่วนจุดที่จะเล่นน้ำนั้นก็แล้วแต่ว่า แพไทรโยค ของเจ้าไหนจะมีทีเด็ดอะไรบ้าง แต่อยากจะฝากไว้สักนิดหนึ่งว่าถ้าจะเล่นน้ำขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัดและใส่ชูชีพกันด้วยนะส่วนคนว่ายน้ำไม่เป็นอย่าลงดีกว่า แพไทรโยคมีแบบไหนบ้าง แพไทรโยค เดี๋ยวนี้มีมากมายหลายเจ้า แต่ว่าส่วนใหญ่ก็จะมีสองแบบคือ แบบแรกจะเป็นแบบแพลากแพแบบนี้จะเป็นการเหมาแพแล้วจะมีเรือลากไปเล่นน้ำตามจุดต่างๆแล้ววนกลับมาขึ้นฝั่ง ส่วนอีกแบบคือจะเป็นแพนิ่งคือแพอยู่กับที่ริมน้ำ แต่ว่าจะมีแพเล็กอีกอันหนึ่งไว้พาพวกเราไปเล่นน้ำตามจุดที่กำหนด แพไทรโยคราคาเท่าไร มาดูเรื่องของราคากันบ้างถ้าเป็นแพแบบเหมาอันนี้มีราคาสูงหน่อยราคาเริ่มต้นที่ห้าพันบาทต่อคืน(แต่ขึ้นอยู่กับขนาดและเครื่องอำนวยความสะดวกด้วย) ส่วนแพนิ่งที่พักอันนี้ราคาเริ่มต้นที่คนละพันสองต่อคืน(พร้อมอาหารเย็น อาหารเช้าและพาเที่ยวหรือเล่นน้ำ) ใครสนใจก็ถามหาเก็บข้อมูลกับอากู๋ดูโลด แพไทรโยค ถือว่าเป็นการท่องเที่ยวทางน้ำอีกรูปแบบหนึ่งที่โดดเด่นมากของจังหวัดกาญจนบุรี เรียกได้ว่าถ้าไปกาญจนบุรีแล้วไม่ไปล่องแพนี่ถือว่าไปไม่ถึงกาญจนบุรีเลยนะ ถ้าหากใครคิดอยากจะร่วมกลุ่มเพื่อนเก่า เพื่อนที่ทำงาน หรือสัมมนากลุ่มใหญ่แพไทรโยคถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวเชียว
อากาศร้อนๆ แบบนี้ หลายคนอาจจะนึกถึงทะเล หรือน้ำตก ซึ่งเป็นสถานที่เกี่ยวกับน้ำ ซึ่งหนึ่งในนั้นที่น่าสนใจก็คือ น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี ขึ้นชื่อว่าเป็นผืนป่าตะวันตกที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์ มากมายทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสกับกิจกรรมมันส์ ๆ เหล่านั้น หรือไปพักผ่อนแบบชิลๆ ที่ น้ำตกเอราวัณ กับสายน้ำที่เย็นชุ่มฉ่ำ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของ อุทยานแห่งชาติเอราวัณเป็นน้ำตกที่มีระยะทางยาวติดต่อกันบวกกับความงามที่ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ที่มาของน้ำตกเอราวัณ น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกน้ำตกหนึ่งแห่งที่ขึ้นชื่อ ซึ่งมีความสวยงามและมีระยะทางยาวประมาณ 1,500 เมตรติดต่อกัน ด้วยลักษณะของน้ำตกชั้นที่ 7 มีลักษณะคล้ายหัวช้างเอราวัณ 3 เศียร ทำให้กลายมาเป็นชื่อ น้ำตกเอราวัณ นั่นเอง ซึ่ง น้ำตกเอราวัณ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในรูปแบบสายน้ำ โดยมีน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามแบ่งออกได้ 7 ชั้น ซึ่งน้ำตก แต่ละชั้นมีความสวยงามและร่มรื่น เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ กล้วยไม้ป่าหลากชนิดบวกกับสายธารน้ำที่ไหลลดหลั่นลงมาตกลงบนโขดหินสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง น้ำตกเอราวัณความงามแห่งธรรมชาติ น้ำตกเอราวัณ ถือได้ว่าเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยต้นไม้และสัตว์ป่านานาพันธุ์ ด้วยความเป็นป่าที่สมบูรณ์และสวยงาม เหมาะสำหรับคนที่อยากจะหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนที่นี่ ด้วย น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่มีน้ำใสมาก สามารถทำให้มองเห็นตัวปลาที่กำลังแหวกว่ายใต้ผืนน้ำที่สะท้อนแสงเป็นสีฟ้าเขียวมรกต น้ำตกเอราวัณ ของน้ำตกแต่ละชั้น น้ำตกเอราวัณ ของแต่ละชั้นจะมีชื่อเรียกที่คล้องจอง น่ารักมาก ซึ่งน้ำตกชั้นแรก ชื่อว่า”ไหลคืนรัง ส่วนชั้นที่สองชื่อ “วังมัจฉา” ชั้นที่สาม “ผาน้ำตก” ชั้นที่สี่ […]
ท่องเที่ยวทั่วไทย แบบโรแมนติก ที่ภูกระดึง สถานที่ ท่องเที่ยวทั่วไทย มีมากมายให้เลือกสรรค์ ทั้งความสวยสดงดงาม พร้อมทั้งบรรยากาศจากกลิ่นไอหมอกที่สดชื่นยามเช้า รวมถึงแสงสว่างจากพระอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นฟ้า นับว่าเป็น ที่เที่ยวแบบโรแมนติก ที่เหมาะสำหรับคนพิเศษๆที่มักชวนกันมาเที่ยวในบรรยากาศแห่งนี้เป็นจำนวนหลายร้อยคู่ด้วยกัน ที่แห่งนี้จึงจัดว่าเป็นที่เที่ยวแบบโรแมนติก ที่สุดของคู่หนุ่มสาว 1. เที่ยวแบบโรแมนติก ในเมืองอีสาน สถานที่ ท่องเที่ยวทั่วไทย มีมากมาย แต่ถ้าพูดถึงที่อากาศดีๆจนอยากฝากสายลมอันหนาวเย็นที่กำลังจะมาถึง พร้อมทั้งบรรยากาศจากไอหมอกยามเช้าที่สดชื่น ไปบอกคนสำคัญที่ไม่ได้มาด้วยกันว่าที่แห่งนี้สวยงามแค่ไหน ก็คงหนีไม่พ้นกับที่แห่งนี้ นั้นก็คือ ภูกระดึง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในแบบโรแมนติกที่มียอดฮิตคลอดกาลของคู่รักหลายคู่ที่จะมาพิสูจน์รักแท้ ด้วยการเดินขึ้นเขาระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร จึงเป็นที่เที่ยวแบบโรแมนติก ที่จะเอาใจสำหรับคู่รักของคุณนั้นเองครับ 2. สัมผัสบรรยากาศ เที่ยวแบบโรแมนติก ไปกับภูกระดึง นับได้ว่า ภูกระดึง เป็นที่เที่ยวที่จัดได้ว่าเป็นที่เที่ยวแบบโรแมนติก เป็นอย่างมาก กับบรรยากาศที่จะพาคู่รักได้เดินทางขึ้นไปขึ้นยอดที่ใช้เวลาทั้งหมดในการเดินขึ้นไป โดยประมาณ 5 กิโลเมตร มันก็ขึ้นอยู่กับความอดทนของคู่รักของแต่ละคู่ว่าจะรักกันช่วยกันไปถึงยอดหรือเปล่า ทั้งนี้เองเลยจัดว่า เที่ยวภูกระดึง ไปกับเที่ยวแบบโรแมนติก ของคู่หนุ่มสาว 3. ชมแสงสว่างของพระอาทิตย์ ยามเช้า กับเที่ยวแบบโรแมนติก แห่งเมืองอีสาน ในเวลาเช้าของที่ภูกระดึง แห่งนี้ […]
